โต๊ะทำงาน….ดรุณี
การคิดวิเคราะห์เหตุการณ์บนพื้นฐานวิทยาศาสตร์
น้ำมันพืชผ่านกรรมวิธี
เพิ่งเจอข้อมูลในอินเตอร์เน็ต ที่จั่วหัวว่า “น้ำมันพืช อันตรายระดับชาติ” และก็สาธยายเรื่องว่า ความเชื่อที่ถูกฝรั่งฝังหัวมา…ขอให้กลับสู่ยุคไทยโบราณโดยใช้น้ำมันมะพร้าวน้ำมันหมูและลงท้ายว่านายอาร์โนลด์ชวาลเนกเกอร์อดีตผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียระบุว่า “การใช้น้ำมันพืชผ่านกรรมวิธี ทำให้เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ……” “รัฐเท็กซัส….พรบ. ขจัดน้ำมันพืชแปรรูป หมดจากร้านอาหาร ภายในสิงหาคม”
การส่งต่อข้อมูลที่ทำเหมือนอ้างโน่นนี่นั่นทำให้ดูน่าเชื่อถือว่าน้ำมันผ่านกรรมวิธีมีอันตรายและส่งผลทำให้ประชาชนนึกว่าเป็นจริงและหลงเชื่อ
ขอให้ข้อมูลเรื่องนี้ว่าน้ำมันมะพร้าว น้ำมันหมู น้ำมันพืชต่างๆ ทั้งหลายมีทั้งคุณและโทษ ซึ่งในยุคปัจจุบันแนะนำให้ใช้ในปริมาณที่พอเหมาะไม่มากเกินไปเพราะ ถ้าใช้มากเกินไปจะก่อให้เกิดโรคอ้วนและโรคอื่นๆตามมาเนื่องจากไขมัน – น้ำมัน 1 กรัม ให้พลังงานสูงถึง 9 คาลอรี แต่ที่แน่นอนคือไม่ใช่เพราะกระบวนการผลิตน้ำมัน ที่สร้างปัญหาต่อผู้บริโภค
น้ำมันพืชผ่านกรรมวิธีเพื่อการปรุงอาหารหลายๆ ยี่ห้อการค้ามีมาตรการควบคุมกระบวนการผลิตอย่างที่คำนึงถึงอันตรายที่อาจเกิดจากการผลิตโดยปริมาณต้องเป็นไปตามที่มีการระบุในมาตรฐานทั้งระดับประเทศและระดับสากลและต้องไม่มีสารอันตรายที่จะสร้างปัญหาต่อผู้บริโภคหลงเหลืออยู่
แต่สิ่งที่เขียนในข้อมูลที่ส่งต่อๆ กันและมีวิธีเขียนที่อาจทำให้เข้าใจผิดว่าน้ำมันพืชผ่านกรรมวิธีมี ”อันตราย” ทั้งๆ ที่ข้อมูลวิทยาศาสตร์และมาตรฐานได้มีการระบุเพียงสารที่ชื่อว่า Trans fatty acid ที่อาจเกิดขึ้นในขั้นตอนการผลิตโดยในความเป็นจริงผู้ประกอบการทราบข้อมูลนี้ดีและก็มีมาตรการที่เข้มงวดในการควบคุมไม่ให้เกิดขึ้นในกระบวนการผลิต
สรุปน้ำมันพืชที่ผ่านกรรมวิธีผลิตที่ถูกต้องได้มาตรฐานไม่มีอันตรายตามที่กล่าวกัน ส่วนสารที่เป็นอันตรายคือ Trans fatty acid ก็มีการควบคุมกระบวนการผลิต ไม่ให้เกิดสารนี้ขึ้น และต้องเป็นไปตามมาตรฐานสากลอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ควรหาทางบริโภคน้ำมันและไขมันในอาหารให้น้อยลง เพื่อไม่ให้อ้วนเพราะจะทำให้เกิดปัญหาสุขภาพด้านอื่นๆ ค่ะ
จึงขอให้ข้อมูลนี้เพื่อผู้บริโภค จะได้เข้าใจว่าน้ำมันพืชที่มีขายแบบบรรจุขวดเพื่อใช้ปรุงอาหาร ไม่ได้มีอันตราย ตามที่มีการระบุในอินเตอร์เน็ต นะคะ