จากสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน คงปฏิเสธไม่ได้ว่ามีหลายท่านอยากเป็นเจ้าของกิจการ หรือเป็นเจ้าของสินค้ามากขึ้น โดยอาจเป็นเพียงแค่อาชีพเสริมเข้ามา หรือกลายมาเป็นอาชีพหลักของใครหลายๆคน และหนึ่งในสินค้าที่มักพบว่ามีคนเลือกจะเป็นเจ้าของกิจการหรือเจ้าของแบรนด์นั้น ก็คือสินค้าประเภทอาหารนั่นเอง แต่สำหรับผู้ที่อยากเป็นเจ้าของแบรนด์การจะลงทุนเพื่อซื้อเครื่องจักรและวัตถุดิบเองทั้งหมดนั้นก็คงเป็นไปได้ยาก ทั้งนี้เนื่องด้วยเงินทุนที่จะใช้เริ่มต้นนั้นเป็นจำนวนมหาศาล อีกทั้งอำนาจการต่อรองในการซื้อวัตถุดิบก็ยังมีไม่มากนัก จึงจะเห็นได้ว่าหลายคนเริ่มหันมาเป็นเจ้าของสินค้าหรือเจ้าของแบรนด์ ในรูปแบบที่เรียกว่า การจ้างผลิต หรือ OEM นั่นเอง
การจ้างผลิต หรือ OEM นั้น เป็นการว่าจ้างให้ผู้อื่นผลิตผลิตภัณฑ์ตามความต้องการของผู้ว่าจ้าง โดยส่วนมากผู้ว่าจ้างจะจ้างบริษัทที่รับจ้างผลิตให้ผลิตสินค้าแล้วตีตราเป็นแบรนด์ของตนเอง ในฐานะเจ้าของแบรนด์ เราย่อมต้องคัดเลือกบริษัทที่รับจ้างผลิต หรือบริษัท OEM ที่สามารถผลิตสินค้าให้มีคุณภาพตามความต้องการ เพื่อให้สินค้าภายใต้ชื่อแบรนด์ของเรานั้นเป็นที่ถูกใจของลูกค้านั้นเอง
ก่อนจะเข้าสู่หลักการในการเลือกว่าจะใช้ OEM เจ้าไหน มาเป็นผู้ผลิตสินค้าให้กับเรานั้น สิ่งหนึ่งที่ผู้ว่าจ้างควรคำนึง คือ เป้าหมายของกลุ่มลูกค้าที่เราต้องการขายสินค้า หรือกลุ่มลูกค้าเป้าหมายนั้นต้องการอะไรบ้าง เป็นสินค้าระดับ Premium หรือไม่ ประเทศปลายทางของลูกค้าเป็นอย่างไร การเข้าไปขายสินค้าในประเทศเหล่านั้น ดังนั้นผู้ว่าจ้างเองจึงต้องเลือกบริษัท OEM ที่มีมาตรฐานต่างๆตามกลุ่มเป้าหมายที่เราเลือกด้วย ซึ่งมีความสัมพันธ์โดยตรงกับราคาต้นทุนของสินค้าที่ผู้ว่าจ้างต้องจ่ายอย่างแน่นอน
- ควรเลือกบริษัทที่มีหลักฐานยืนยันการอนุญาตสถานที่ผลิตอาหารจากสาธารณสุขประจำพื้นที่นั้นๆ
- สิ่งที่ผู้ว่าจ้างควรคำนึง เมื่อเลือกบริษัทที่รับจ้างผลิตแล้ว